412GLOW

เอเจนซี่ศัลยกรรมจีน มีรีวิว ศัลยกรรมจีน ตลอด 3 ปี

ศัลยกรรมจีน ครบทุกเรื่องที่คุณควรรู้ ก่อนบินไปทำที่จีน

 

ศัลยกรรมจีน กำลังเป็นกระแสที่มาแรงในหมู่คนไทยที่ต้องการเสริมความงามระดับอินเตอร์ ด้วยมาตรฐานการแพทย์ที่พัฒนาอย่างรวดเร็วและผลลัพธ์ที่โดดเด่นไม่แพ้ชาติใด ในบทความนี้เราจะพาคุณเจาะลึก ครบทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับการทำศัลยกรรมที่จีน ตั้งแต่ภาพรวมวงการ โรงพยาบาลและแพทย์ชื่อดัง (เช่น Shanghai Qimei และคุณหมอ Dr.You) ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนผ่าตัด ความปลอดภัยและเทคโนโลยีที่ใช้ ศัลยกรรมจีนปลอดภัยไหม? ค่าใช้จ่ายแต่ละประเภทประมาณเท่าไหร่ พร้อมทั้งแชร์รีวิวประสบการณ์จริงของคนไข้ เปรียบเทียบวงการศัลยกรรมจีนกับเกาหลี ทำไมคนไทยจำนวนมากขึ้นถึงเลือกบินไปทำสวยที่จีน และสิ่งที่ควรคาดหวังในการดูแลหลังผ่าตัด บทความเดียวครบทุกประเด็น!ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ศัลยกรรมจีน กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมของคนไทยจำนวนมาก เพราะทั้งคุณภาพ มาตรฐาน และเทคโนโลยีที่ทันสมัยไม่แพ้เกาหลีหรือประเทศชั้นนำอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำตา 2 ชั้น เสริมจมูก ปากแมว หรือดูดไขมัน การทำศัลยกรรมที่จีนในปัจจุบันได้รับความนิยมสูงอย่างต่อเนื่อง

บทความนี้คือ Pillar Page ที่จะรวมทุกข้อมูลสำคัญไว้ในที่เดียว ตั้งแต่ประเภทศัลยกรรมยอดนิยม ค่าใช้จ่าย รีวิวจากเคสจริง ไปจนถึงขั้นตอนการเดินทาง และวิธีเลือกเอเจนซี่อย่างปลอดภัย

ศัลยกรรมจีน ดีจริงไหม?

วงการ ศัลยกรรมจีน มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา ปัจจุบันจีนถือเป็นหนึ่งในตลาดศัลยกรรมที่ใหญ่ที่สุดของโลก จากสถิติพบว่าในปี 2019 มีการทำศัลยกรรมความงามในจีนมากกว่า 2.9 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้นถึง 47% จากปีก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งจีนยังติดอันดับ Top 3 ของโลกทั้งในด้านจำนวนศัลยแพทย์ตกแต่งที่ปฏิบัติงานอยู่ และเป็นหนึ่งในประเทศที่มีคนเดินทางไปทำศัลยกรรมมากที่สุดในโลกเทียบเคียงได้กับเกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา และบราซิลเลยทีเดียว

 

ทำไม ศัลยกรรมจีน ถึงบูม? ปัจจัยสำคัญมาจากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นและทัศนคติที่เปิดกว้างขึ้นของคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น Gen Z ชาวจีนที่ยอมรับการศัลยกรรมเป็นเรื่องปกติ นอกจากนี้ เทคโนโลยีและเทคนิคทางการแพทย์ของจีนพัฒนาขึ้นมาก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19 คนจีนไม่สามารถบินออกนอกประเทศได้ ทำให้ต้องพึ่งบริการศัลยกรรมภายในจีนทั้งหมด ส่งผลให้โรงพยาบาลใหญ่ๆ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างเซี่ยงไฮ้ เร่งพัฒนาเทคโนโลยี เทคนิคฝีมือของหมอ และอุปกรณ์การแพทย์ให้ทันสมัยยิ่งขึ้นบวกกับการแข่งขันภายในประเทศที่สูง ทำให้ศัลยแพทย์จีนมีทักษะและประสบการณ์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นั่นหมายความว่าปัจจุบันมาตรฐานการศัลยกรรมในจีนอยู่ในระดับสากลและพร้อมรองรับทั้งลูกค้าชาวจีนและชาวต่างชาติ

โรงพยาบาล ศัลยกรรมจีน และ มาตรฐานแพทย์

โรงพยาบาลศัลยกรรมในจีน มีขนาดใหญ่และทันสมัย หลายแห่งได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากลและมีความครบวงจรไม่แพ้โรงพยาบาลในเกาหลีหรือประเทศตะวันตก ยกตัวอย่างเช่น โรงพยาบาล Shanghai Qimei (เซี่ยงไฮ้ ฉีเม่ย) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมที่กำลังได้รับความนิยมสูงสุดในเซี่ยงไฮ้และเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวงการโรงพยาบาลเหล่านี้มีความพร้อมทั้งด้านความปลอดภัย ทีมแพทย์วิสัญญี เครื่องมือและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตามมาตรฐานของโรงพยาบาลชั้นนำ เช่น ห้องผ่าตัดปลอดเชื้อที่มีประตูสองชั้นเพื่อความสะอาดปลอดภัยสูงสุด ห้องพักฟื้นขนาดใหญ่สำหรับคนไข้และญาติพร้อมพยาบาลดูแลตลอด 24 ชั่วโมง และการจัดเตรียมยาโดยโรงพยาบาลโดยตรง ทำให้คนไข้ไม่ต้องออกไปหาซื้อยาภายนอกเองสิ่งเหล่านี้ช่วยสร้างความมั่นใจว่า การทำศัลยกรรมที่จีน หากเลือกโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานก็มีความปลอดภัยไม่แพ้ที่ใด

 

นอกจากความพร้อมของโรงพยาบาลแล้ว คุณภาพและชื่อเสียงของศัลยแพทย์จีน ก็เป็นจุดเด่นสำคัญ ศัลยแพทย์ตกแต่งในจีนจำนวนมากมีประสบการณ์สูงและมักเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน บางรายผ่านการฝึกอบรมจากต่างประเทศหรือร่วมงานวิจัยระดับนานาชาติ ที่สำคัญคือ ปริมาณเคสผ่าตัดที่มาก เนื่องจากความต้องการในประเทศสูง หมอจีนหลายคนผ่าตัดแทบทุกวันทำให้มีความชำนาญมากขึ้นเรื่อยๆ ตัวอย่างเช่นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตาสองชั้นหรือแก้ตา มีรายงานว่าหมอบางท่านรับผ่าตัดแก้ไขตาสูงถึงประมาณ 5 เคสต่อวัน ทำงานสัปดาห์ละ 6 วัน เท่ากับทำผ่าตัดเกือบ 120 เคสต่อเดือน เลยทีเดียว ซึ่งปริมาณเคสที่มากเช่นนี้สะท้อนถึงความช่ำชองและความคล่องตัวของทีมแพทย์จีนในการรับมือกับเคสหลากหลายรูปแบบยิ่งไปกว่านั้น หลายโรงพยาบาลยังมีการแบ่งทีมแพทย์เฉพาะทาง เช่น ทีมศัลยกรรมจมูก ทีมศัลยกรรมตา ทีมศัลยกรรมโครงหน้า เป็นต้น เพื่อให้คนไข้ได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านโดยตรง

ตัวอย่างแพทย์ชื่อดัง: หมอ Dr.You แห่งเซี่ยงไฮ้

เมื่อพูดถึงศัลยแพทย์จีนชื่อดังที่คนไทยกล่าวถึงบ่อยๆ จะขาดไม่ได้คือ คุณหมอ You Ze Hong หรือที่รู้จักกันในชื่อ Dr. You แห่งเซี่ยงไฮ้ แพทย์ท่านนี้โดดเด่นเรื่องการทำศัลยกรรมจมูกจนกลายเป็นกระแสในโซเชียล โดยเฉพาะทรงจมูกยอดฮิตที่เรียกกันว่า “ทรงพี่สาวจีน” ซึ่งให้สันจมูกโด่งคมแบบสาวจีนมีเสน่ห์ คุณหมอ You เป็นศัลยแพทย์ประจำอยู่ที่โรงพยาบาล Shanghai Qimei และกำลังมาแรงสุดๆ ในขณะนี้ มีผู้สนใจจองคิวทำจมูกกับเขาจากหลายประเทศรวมถึงไทย (ถึงขั้นที่มีการเตือนให้ระวังเอเจนซี่เถื่อนแอบอ้างชื่อหมอ You) ชื่อเสียงของหมอ You ดังมากในหมู่สาวกแอป Douyin (ติ๊กต็อกจีน) และกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบสไตล์ความงามแบบจีน โดยมีการยืนยันว่าศัลยกรรมจีนกับหมอ You ปลอดภัยไว้ใจได้ หากไปกับเอเจนท์ที่ถูกต้องความนิยมของคุณหมอท่านนี้เป็นหนึ่งในแรงดึงดูดที่ทำให้หลายคนสนใจบินไปทำศัลยกรรมจมูกที่จีน นอกจากหมอ You แล้ว ในจีนยังมีศัลยแพทย์ชื่อดังอีกหลายท่าน เช่น หมอ Zeng (เจิ้ง) ที่เชี่ยวชาญด้านจมูกและโครงหน้าในกวางโจว หรือทีมหมอที่ โรงพยาบาลศัลยกรรมหมายเลข 1 (No.1 Plastic Surgery Hospital) ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องแก้ไขตาและเสริมความงามครบวงจรในเมืองกวางโจว (มีรายงานว่าโรงพยาบาลแห่งนี้ทำรายได้สูงถึงประมาณ 70 ล้านบาทต่อเดือนจากเคสศัลยกรรมความงาม). ชื่อเสียงของแพทย์และโรงพยาบาลจีนเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าจีนได้กลายเป็นหนึ่งในผู้นำด้านศัลยกรรมความงามที่คนเอเชียให้ความเชื่อถือมากขึ้นเรื่อยๆ

 

คุณหมอ Dr. You แห่งโรงพยาบาล Shanghai Qimei ขณะทำการผ่าตัดเสริมจมูกซี่โครงให้คนไข้ชาวไทย ด้วยความพิถีพิถันและเทคนิคเฉพาะตัวที่เชี่ยวชาญ (ภาพจากห้องผ่าตัดจริงในเซี่ยงไฮ้)

( dr.you และ คุณส้ม ผู้ก่อตั้ง 412GLOW เอเจนซี่ศัลยกรรมจีน อันดับ 1 ) 

ศัลยกรรมที่จีน นิยมทำอะไรกันบ้าง?

    • ศัลยกรรมตา 2 ชั้น – เทคนิคเปิดหัวตา หางตาแบบสายจีน

    • ศัลยกรรมจมูก – เสริมจมูกทรงพี่สาวจีน มีฮัมพ์ ปลายมน

    • ทำปากแมว – ปรับรูปปากให้อวบอิ่ม ยกมุมปาก

    • ดูดไขมัน – เหมาะกับคนต้องการปรับสัดส่วนทั้งตัว

    • ศัลยกรรมคาง/โหนกแก้ม – ปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนตามแบบจีน

ศัลยกรรมจีนราคาเท่าไหร่?

ราคาศัลยกรรมในจีนถือว่าเรื่อง ราคา เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่หลายคนอยากทราบเมื่อเปรียบเทียบศัลยกรรมจีนกับที่อื่น ราคาศัลยกรรมในจีนมีความหลากหลายขึ้นอยู่กับประเภทหัตถการ ความยากง่าย เทคนิคที่ใช้ และชื่อเสียงของแพทย์/โรงพยาบาล ในภาพรวม ราคาศัลยกรรมที่จีนมักจะถูกกว่าประเทศตะวันตกและพอๆ กับหรืออาจต่ำกว่าที่เกาหลีในบางรายการ โดยเราจะยกตัวอย่าง ราคาโดยประมาณเป็นเงินบาท ของศัลยกรรมยอดนิยมบางประเภทที่จีน (อ้างอิงจากราคาหน้าโรงพยาบาลที่เอเจนซี่ให้ข้อมูล) ดังนี้:

    • ทำตา 2 ชั้น: 200,000 – 350,000 บาท

    • เสริมจมูก: 230,000 – 360,000 บาท

    • ดูดไขมันเฉพาะจุด: 45,000 – 180,000 บาท

    • ทำปากแมว: 135,000 – 155,000 บาท
    • หมายเหตุ: ราคาข้างต้นเป็นการประมาณจากข้อมูลกลางปี 2025 ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ ควรตรวจสอบราคาอีกครั้งกับทางโรงพยาบาลหรือเอเจนซี่ก่อนตัดสินใจ ทั้งนี้ ข้อดีอย่างหนึ่งของการทำศัลยกรรมที่จีนผ่านเอเจนซี่ไทยคือ ราคาที่แจ้งมักจะเป็น “ราคาหน้าโรงพยาบาล” ไม่มีการบวกเพิ่มแอบแฝง และสามารถตรวจสอบยืนยันกับทางโรงพยาบาลได้โดยตรงว่าคิดตามนั้นจริงทำให้ลูกค้ามั่นใจเรื่องความโปร่งใสด้านค่าใช้จ่าย

👉 เช็คราคาบริการทั้งหมดกับ 412Glow

รีวิวจากลูกค้าจริงที่เคยทำศัลยกรรมที่จีน

เสียงจากลูกค้าที่เคยบินไปทำ ศัลยกรรมจีน กับเอเจนซี่ 412Glow คือเครื่องยืนยันที่ดีที่สุดว่าบริการของเราน่าเชื่อถือ และผลลัพธ์ก็น่าพึงพอใจ ทั้งในแง่ความปลอดภัย ความสวยแบบธรรมชาติ และการดูแลที่ประทับใจ

ลูกค้าหลายคนเล่าว่า รู้สึกเหมือนไม่ได้ไปผ่าตัด แต่เหมือนไปเที่ยวเพราะมีทีมงานดูแลตลอดทาง ไม่มีปัญหาเรื่องภาษา และผลลัพธ์ก็ตรงตามที่คาดไว้ ดูรีวิวเพิ่มเติมที่นี่

ขั้นตอนการเดินทางไปทำศัลยกรรมที่จีน

การเตรียมตัวอย่างรอบคอบจะช่วยให้การไปทำศัลยกรรมที่จีนเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย เรามาดู ขั้นตอนแบบ Step-by-Step สำหรับผู้ที่วางแผนจะบินไปทำสวยที่จีนกัน:

      1. ค้นคว้าและเลือกโรงพยาบาล/คุณหมอ – เริ่มจากการหาข้อมูลโรงพยาบาลศัลยกรรมจีนที่มีชื่อเสียงและเชี่ยวชาญในหัตถการที่คุณต้องการ ควรพิจารณารีวิวผลลัพธ์ของเคสจริง ดูผลงานก่อน-หลัง (Before/After) และตรวจสอบคุณสมบัติของศัลยแพทย์ผู้ทำการรักษา เบื้องต้นอาจปรึกษาผ่านเอเจนซี่ศัลยกรรมจีนที่เชื่อถือได้ ซึ่งเอเจนท์จะมีรายชื่อโรงพยาบาลและคุณหมอมือหนึ่งหลายท่านให้เลือก

      2. ปรึกษาและประเมินเคสล่วงหน้า – เมื่อได้รายชื่อหมอหรือโรงพยาบาลที่สนใจ ขั้นตอนต่อไปคือการ ปรึกษาเบื้องต้น (Consultation) ซึ่งสามารถทำได้ทางออนไลน์โดยการส่งรูปถ่ายและพูดคุยผ่านแชทหรือวิดีโอคอลกับทางเอเจนท์/โรงพยาบาล ศัลยแพทย์จะประเมินใบหน้า/ร่างกายของเราและแนะนำวิธีศัลยกรรมที่เหมาะสม พร้อมทั้งแจ้งราคาโดยประมาณ ขั้นตอนนี้ควรสอบถามทุกข้อสงสัย เช่น เทคนิคที่จะใช้, วัสดุที่ใส่, ระยะเวลาพักฟื้น เป็นต้น เพื่อให้เข้าใจตรงกันก่อนเดินทาง

      3. เตรียมเอกสารและการเดินทาง – ตรวจสอบความพร้อมของหนังสือเดินทาง วีซ่า (ปัจจุบัน ผู้ถือพาสปอร์ตไทยสามารถเดินทางเข้าจีนได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ในช่วงที่รัฐบาลจีนมีนโยบายฟรีวีซ่า ทำให้การเดินทางสะดวกขึ้นมากแต่ควรตรวจสอบนโยบายล่าสุดก่อนเดินทาง) จองตั๋วเครื่องบินไป-กลับและที่พักในจีนให้เรียบร้อย หากเดินทางผ่านเอเจนซี่ บางแพ็คเกจอาจรวมค่าที่พักและการเดินทางในจีนไว้แล้ว ควรเตรียมสำเนาเอกสารจำเป็น เช่น ใบจองโรงแรม เอกสารนัดหมายกับโรงพยาบาล ฯลฯ และ ทำประกันการเดินทาง เผื่อกรณีฉุกเฉิน

      4. ตรวจสุขภาพและเตรียมร่างกาย – ก่อนผ่าตัดศัลยกรรม ควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ งดบุหรี่ แอลกอฮอล์ และอาหารเสริมบางชนิดที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ หากมีโรคประจำตัวหรือทานยาใดอยู่ ควรแจ้งแพทย์ล่วงหน้า นอกจากนี้ควรตรวจร่างกายขั้นพื้นฐาน เช่น เจาะเลือด เช็คความดัน หรือตรวจตามที่แพทย์สั่ง เพื่อความปลอดภัย (โดยปกติเมื่อไปถึงจีน โรงพยาบาลจะมีการตรวจร่างกายและทำแล็บ อีกรอบก่อนผ่าตัดอยู่แล้ว เช่น ตรวจเลือด ความดัน สแกน CT ฯลฯ เพื่อยืนยันว่าคนไข้พร้อมเข้ารับการผ่าตัด)

      5. วันเดินทางและเข้าพบแพทย์ที่จีน – เดินทางถึงจีนก่อนวันผ่าตัดจริงอย่างน้อย 1 วัน (หรือมากกว่าในกรณีผ่าตัดใหญ่) เพื่อเข้าพบศัลยแพทย์ด้วยตนเองสำหรับการปรึกษาเพิ่มเติม ตกลงรายละเอียดขั้นสุดท้าย และตรวจร่างกายทางการแพทย์ตามที่กล่าวไป โรงพยาบาลจะจัดเตรียมล่ามภาษาจีน-ไทยหรืออังกฤษให้สำหรับผู้ป่วยต่างชาติ (หากมากับเอเจนท์ ไทย เอเจนท์จะเป็นล่ามให้เอง) ขั้นตอนนี้แพทย์จะวาดแผนผ่าตัดบนใบหน้า/ร่างกายของเรา และอาจถ่ายภาพเพื่อใช้เปรียบเทียบ นอกจากนี้จะมีการเซ็นเอกสารยินยอมการรักษา ชำระเงินค่าใช้จ่าย (สามารถจ่ายผ่านบัตรเครดิต แอพจ่ายเงิน หรือโอนตามที่โรงพยาบาลรองรับได้ โดยเอเจนท์หลายรายให้ลูกค้าชำระเงินกับโรงพยาบาลโดยตรงเพื่อความโปร่งใส) เมื่อเสร็จแล้วก็เตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับวันผ่าตัด

      6. วันผ่าตัดศัลยกรรม – ในวันผ่าตัด คนไข้จะถูกพาเข้าห้องเตรียมความพร้อม เปลี่ยนชุดผ่าตัด งดแต่งหน้า ถอดเครื่องประดับ แพทย์วิสัญญีจะให้ยาชาเฉพาะที่หรือวางยาสลบตามประเภทการผ่าตัด ห้องผ่าตัดของโรงพยาบาลจีนได้มาตรฐานสูง มีความปลอดเชื้อและอุปกรณ์ทันสมัย ทีมศัลยแพทย์จะดำเนินการผ่าตัดตามแผนที่วางไว้ กระบวนการนี้ใช้เวลาตั้งแต่ 1-2 ชั่วโมงสำหรับศัลยกรรมเล็ก ไปจนถึง 4-6 ชั่วโมงหรือมากกว่าสำหรับศัลยกรรมใหญ่หรือหลายอย่างพร้อมกัน เมื่อผ่าตัดเสร็จ คนไข้จะถูกย้ายไปห้องพักฟื้นเพื่อดูอาการ

      7. การพักฟื้นที่โรงพยาบาล – หลังการผ่าตัด คนไข้มักจะต้องพักที่โรงพยาบาลอย่างน้อย 1-2 คืน (หรือหลายคืนสำหรับเคสใหญ่ เช่น ผ่าตัดโครงหน้า/ดูดไขมันหลายจุด) โดยมีพยาบาลคอยดูแลตลอด 24 ชม. และล่ามคอยช่วยสื่อสารให้เพื่อความอุ่นใจในช่วงนี้แพทย์จะมาตรวจดูแผลเป็นระยะ ให้ยาแก้ปวด ยาปฏิชีวนะ และคำแนะนำเบื้องต้นในการดูแลตัวเอง เช่น วิธีประคบเย็น ลดบวม เป็นต้น

      8. ติดตามผลและเตรียมกลับไทย – ก่อนเดินทางกลับ แพทย์จะนัดตรวจติดตามผลหลังผ่าตัด (มักภายใน 5-7 วันหลังผ่า ขึ้นอยู่กับประเภทการผ่าตัด) เพื่อเช็คความเรียบร้อยของแผล ถอดเฝือกหรือผ้าพัน (กรณีเสริมจมูกหรือดูดไขมัน) และตัดไหมหากไหมไม่ละลาย เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย คนไข้ก็สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้ อย่าลืมขอเอกสารรายงานการผ่าตัดหรือผลการตรวจต่างๆ จากโรงพยาบาลติดตัวมาด้วย เผื่อกรณีต้องใช้ในภายหลัง

      9. ดูแลตนเองต่อที่ไทยและติดต่อเอเจนท์/หมอเมื่อต้องการ – เมื่อกลับถึงไทย ควรพักฟื้นต่อที่บ้านตามคำแนะนำของแพทย์จีนอย่างเคร่งครัด เช่น งดกิจกรรมหนัก หมั่นทำความสะอาดแผล และทานยาตามกำหนด หากมีข้อสงสัยหรือปัญหาใดๆ สามารถติดต่อเอเจนท์ที่ดูแลหรือทางโรงพยาบาลจีนผ่านช่องทางออนไลน์ได้ตลอด เอเจนซี่ที่ดีจะติดตามอาการหลังทำอย่างใกล้ชิด ไม่ทอดทิ้งลูกค้า และหลายแห่งมีบริการรับประกันผลงานสูงสุด 1 ปี หากเกิดปัญหาต้องแก้ไขก็จะช่วยประสานงานให้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการผ่าตัดแก้ภายในระยะประกันนั้นทำให้ผู้ที่ไปทำศัลยกรรมที่จีนอุ่นใจได้ในระยะยาว

      การเตรียมตัวตามขั้นตอนข้างต้นนี้จะช่วยให้คุณพร้อมทั้งกายและใจสำหรับการทำศัลยกรรมที่จีน ลดความกังวลและลดโอกาสเกิดปัญหา เมื่อวางแผนมาดี ความสวยที่หวังไว้ก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

  •  

เลือกเอเจนซี่ศัลยกรรมจีนยังไงให้ปลอดภัย

การเลือกเอเจนซี่ถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำศัลยกรรมที่ต่างประเทศ เพราะเอเจนซี่คือคนกลางที่ประสานงานทั้งหมดให้คุณ แนะนำให้พิจารณา 4 ข้อนี้:

    • มีรีวิวลูกค้าจริง และเว็บไซต์ที่ตรวจสอบได้

    • แจ้งราคาชัดเจน ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง

    • มีทีมงานคนไทยดูแลทั้งก่อนและหลังการผ่าตัด

    • เชี่ยวชาญเฉพาะด้านศัลยกรรมจีนโดยตรง

412Glow คือหนึ่งในเอเจนซี่ที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดในประเทศไทย พร้อมบริการแบบครบวงจร ติดต่อได้ที่ หน้าติดต่อเรา

 

ทำไมคนไทยนิยมไปทำศัลยกรรมที่จีนมากขึ้น?

ช่วงหลังมานี้เราจะเห็นคนไทยทั้งตามรายการทีวีและโซเชียลมีเดียพูดถึงการบินไปทำสวยที่จีนกันบ่อยขึ้น สาเหตุที่ คนไทยนิยมทำศัลยกรรมที่จีนเพิ่มขึ้น มาจากหลายปัจจัย ได้แก่:

  • มีเอเจนท์คนไทยคอยดูแลอย่างใกล้ชิด – แต่ก่อนอาจติดปัญหาเรื่องภาษาและความไม่คุ้นเคย แต่ปัจจุบันมีเอเจนซี่ศัลยกรรมจีนในไทยหลายเจ้าเปิดให้บริการครบวงจร ตั้งแต่ให้ข้อมูล ปรึกษา จองคิว จัดการเอกสาร จองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม และพาไปถึงโรงพยาบาลในจีน เอเจนท์เหล่านี้มีล่ามภาษาไทย-จีนมืออาชีพและทีมงานคนไทยที่เข้าใจความต้องการของลูกค้าไทย ทำให้ การสื่อสารและขั้นตอนต่างๆ เป็นเรื่องง่าย ไม่ต่างจากมีเพื่อนไปด้วยตลอดทริป จึงช่วยแก้ Pain point เดิมๆ ได้อย่างมาก คนไทยรู้สึกอุ่นใจที่จะไปจีนเพราะรู้ว่ามีคนดูแล 412glow.com

  • ความสะดวกในการเดินทาง (ฟรีวีซ่า) – อย่างที่กล่าวในหัวข้อเปรียบเทียบ ปัจจุบันคนไทยสามารถเที่ยวจีนได้แบบไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้า (ในช่วงที่มาตรการนี้ยังมีผล) ทำให้ขั้นตอนเตรียมตัวลดลง และ สายการบินระหว่างไทย-จีนก็มีหลายสายราคาย่อมเยา ทั้งบินตรงสู่เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง กวางโจว เซินเจิ้น ฯลฯ ใช้เวลาเดินทางราว 3-5 ชั่วโมงเท่านั้น นอกจากนี้เมืองจีนยังมีเขตเวลาใกล้เคียงกับไทย (เร็วกว่าชั่วโมงเดียว) ไม่ต้องปรับตัวเรื่องเวลาเยอะ ทำให้การไปจีนสะดวกทั้งก่อนและหลังผ่าตัด

  • ผลลัพธ์และทรงที่ถูกใจเทรนด์คนไทย – ช่วงหลังความงามสไตล์จีนได้รับความสนใจในไทยเยอะ เช่น เทรนด์สาวหมวยสวยคมแบบใน Douyin (แอปโซเชียลจีน) ที่มีจมูกโด่งตาคม ปากได้รูป ทำให้คนไทยบางส่วนที่อยากได้ลุคนั้นตัดสินใจไปทำศัลยกรรมที่จีนเพื่อให้ได้ทรงตามต้นฉบับเลย นอกจากนี้หมอจีนยังขึ้นชื่อเรื่อง ความประณีตละเอียดและรับฟังความต้องการลูกค้า ทำให้งานออกมาตรงใจกับที่รีเควสต์ไว้ ส่งผลให้เกิดการบอกต่อปากต่อปาก เช่น เพื่อนทำมาแล้วสวยก็ชวนกันไปทำตามเป็นกลุ่ม เป็นต้น เทรนด์ “ลูกสาวหมอจีน” จึงเกิดขึ้นในหมู่สาวไทยผู้ชื่นชอบสไตล์นี้

  • ราคาคุ้มค่าและโปรโมชันดึงดูด – แม้ราคาศัลยกรรมจีนจะไม่ถือว่าถูกมาก (ไม่ใช่ราคาประหยัดแบบทำคลินิกเล็กๆ) แต่เมื่อเทียบกับคุณภาพและบริการที่ได้รับ หลายคนมองว่า คุ้มค่ากับเงินที่จ่าย ที่สำคัญเอเจนซี่ศัลยกรรมจีนมักโฆษณาว่า “ราคาไม่บวกเพิ่ม” และบางครั้งจัดโปรโมชั่นลดราคา หรือรวมแพ็กเกจแบบ All-inclusive (รวมค่าผ่า ค่ายา ที่พัก ตั๋วบิน ล่าม ดูแลหลังผ่า) ในราคาที่จับต้องได้ ตัวอย่างเช่น โปรเสริมจมูกหรือแก้จมูกช่วงนึงที่กวางโจว ราคา 229,000 บาทรวมทุกอย่าง ตั้งแต่ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ล่าม ยา ฯลฯซึ่งเมื่อคำนวณแล้วถูกกว่าจ่ายแยกรายการเองมาก ทำให้คนไทยหลายคนตัดสินใจเลือกแพ็กเกจแบบนี้เพราะสะดวกและคุ้มค่า

  • การรับประกันและบริการหลังการขายที่ดี – เอเจนซี่จีนหลายเจ้าชูจุดขายเรื่องการดูแลหลังผ่าตัด เช่น มีการรับประกันผลงานนาน 6 เดือน – 1 ปี (แล้วแต่โปร) ถ้าเกิดปัญหาต้องแก้ก็จัดการให้ฟรี มีการติดตามผลเป็นระยะหลังลูกค้ากลับไทย เช่น คอยถามอาการ ขอรูปอัปเดต และให้คำแนะนำการดูแลตัวเอง นอกจากนี้บางเจ้ามีบริการพิเศษ เช่น ส่งพยาบาลไปดูแลที่โรงแรมหลังออกจาก รพ. หรือนัดตรวจแผลที่ไทยกับคลินิกพาร์ทเนอร์ เป็นต้น บริการเหล่านี้ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้าคนไทยว่าแม้อยู่ไกลบ้านแต่ก็ ไม่ถูกทอดทิ้ง แน่นอน

  • กระแสในสื่อและคนดัง – การที่มีผู้มีชื่อเสียงหรืออินฟลูเอนเซอร์ชาวไทยบางคนออกมาบอกเล่าประสบการณ์ทำศัลยกรรมที่จีน ก็เป็นอีกแรงกระตุ้นหนึ่ง เช่น มีการจัดรายการหรือคลิปสัมภาษณ์เกี่ยวกับ ศัลยกรรมจีนในรายการทีวีไทย หรือเพจดังบางเพจก็ทำคอนเทนต์เปรียบเทียบจีน-เกาหลี ทำให้คนดูเกิดความสนใจ ยิ่งในยุคที่ข้อมูลหาได้ง่ายในโซเชียล มีรีวิวให้ดูเพียบ คนไทยจึงเปิดใจให้กับการไปจีนมากขึ้น แตกต่างจากสมัยก่อนที่อาจลังเลเพราะข้อมูลน้อย

จากปัจจัยทั้งหมดนี้ จะเห็นได้ว่าการไปทำศัลยกรรมที่จีนกลายเป็น ทางเลือกใหม่ที่น่าดึงดูดสำหรับคนไทย ไม่แพ้การไปเกาหลีหรือทำที่ไทยเองเลยทีเดียว เมื่อการเดินทางง่าย ราคาสมเหตุสมผล ได้ผลลัพธ์สวยถูกใจ และมีคนดูแลทุกขั้นตอน ก็ไม่แปลกที่ใครๆ ก็อยากลองเปิดประสบการณ์ “บินไปทำสวยที่จีน” กันมากขึ้น

 

(หมายเหตุ: หากผู้อ่านสนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับศัลยกรรมจีน สามารถอ่านต่อที่บทความรวมข้อมูล ศัลยกรรมจีน ซึ่งเป็นหน้าพื้นฐานของหัวข้อนี้)

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับศัลยกรรมจีน

ศัลยกรรมจีนปลอดภัยไหม?

ปลอดภัย หากคุณเลือกโรงพยาบาลที่ได้รับการรับรอง และมีแพทย์เฉพาะทาง พร้อมทีมงานที่ช่วยดูแลและสื่อสารอย่างถูกต้อง

ทำแล้วอยู่ได้นานแค่ไหน?

ขึ้นอยู่กับประเภทศัลยกรรม เช่น การเสริมจมูกหรือทำปากแมว อยู่ได้นานหลายปีถึงถาวร หากดูแลหลังผ่าตัดอย่างถูกต้อง

ต้องใช้เอกสารอะไรในการเดินทาง?

หนังสือเดินทาง (passport), ตั๋วเครื่องบิน, วีซ่าท่องเที่ยว และแบบฟอร์มยืนยันจากโรงพยาบาล (ทีมงาน 412Glow ช่วยจัดการให้ทั้งหมด)

อยากเริ่มต้น ต้องทำยังไง?

เริ่มจาก ส่งรูปถ่ายหน้าตรง ให้ทีมงานประเมินเบื้องต้น พร้อมปรึกษาราคาและแนะนำแพทย์ที่เหมาะสม จากนั้นคุณสามารถจองคิวและเดินทางภายในไม่กี่สัปดาห์

แอดไลน์ เพื่อขอคำปรึกษาได้ฟรีทันที: @412glow หรือดูรายละเอียดทั้งหมดที่เว็บไซต์หลัก 412Glow.com

 

ศัลยกรรมจีน ปลอดภัยไหม? เผยความจริงที่คุณควรรู้ก่อนบินไปทำ

 

คำถามยอดฮิตที่หลายคนสงสัยก่อนจะตัดสินใจบินไป ศัลยกรรมจีน คือ “ปลอดภัยไหม?” บทความนี้จะช่วยไขข้อสงสัยทั้งหมด ตั้งแต่มาตรฐานโรงพยาบาล ความเชี่ยวชาญของแพทย์ ไปจนถึงเทคนิคการลดความเสี่ยง เพื่อให้คุณวางใจและเตรียมตัวได้อย่างมั่นใจ

1. โรงพยาบาลศัลยกรรมจีนได้มาตรฐานระดับสากล

หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าการทำศัลยกรรมที่จีนไม่ปลอดภัย แต่ในความเป็นจริง โรงพยาบาลศัลยกรรมในเมืองใหญ่ เช่น กวางโจว ปักกิ่ง หรือเซี่ยงไฮ้ มักได้รับ ใบรับรองระดับนานาชาติ เช่น JCI หรือ ISO ซึ่งการันตีว่าโรงพยาบาลมีมาตรฐานทั้งด้านอุปกรณ์ เครื่องมือ และความสะอาด

2. แพทย์จีนเชี่ยวชาญเฉพาะทาง

ศัลยแพทย์จีนหลายคนผ่านการอบรมจากต่างประเทศ และมีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย คุณสามารถขอดูใบประกอบวิชาชีพได้เสมอ ซึ่งแตกต่างจากบางประเทศที่ไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลแพทย์ได้ ดูรายชื่อแพทย์จีนที่เราแนะนำ

3. เทคนิคการผ่าตัดทันสมัย ใช้ AI วิเคราะห์โครงหน้า

หนึ่งในจุดแข็งของ ศัลยกรรมจีน คือการนำเทคโนโลยี AI มาช่วยในการวิเคราะห์ใบหน้า เพื่อวางแผนผ่าตัดได้แม่นยำ ลดความคลาดเคลื่อน และเพิ่มความปลอดภัยในทุกขั้นตอน

4. วิธีลดความเสี่ยง: เลือกเอเจนซี่ที่เชื่อถือได้

การใช้บริการ เอเจนซี่ศัลยกรรมจีน ที่น่าเชื่อถือ เช่น 412Glow ช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมาก เพราะเราช่วยตรวจสอบข้อมูลโรงพยาบาล แพทย์ และดำเนินการด้านเอกสาร การสื่อสาร การเดินทาง และการดูแลหลังผ่าตัด ปรึกษาฟรีกับ 412Glow

บทสรุป: ศัลยกรรมจีนปลอดภัยไหม?

ปลอดภัยแน่นอน หากคุณเลือกโรงพยาบาลที่มีมาตรฐาน แพทย์ที่มีใบอนุญาต และมีทีมเอเจนซี่ที่ดูแลคุณอย่างรอบด้าน อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจ ควรศึกษาข้อมูลให้ครบ และวางแผนร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ

อยากรู้ว่าศัลยกรรมแบบไหนเหมาะกับคุณ? แอดไลน์ @412glow เพื่อประเมินฟรี หรือติดต่อเราได้ที่ 412Glow.com

Facebook
Twitter
LinkedIn