เตรียมตัวไปทำศัลยกรรมที่จีนกับ 412GLOW | เอกสาร วีซ่า ที่พักครบ
การ เตรียมตัวไปทำศัลยกรรมที่จีน ให้พร้อมก่อนออกเดินทางเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะเมื่อจุดหมายปลายทางของคุณคือ โรงพยาบาล Shanghai Qimei ในประเทศจีน ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมความงามชั้นนำที่มีมาตรฐานสูงและได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่คนไทยยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็นการทำจมูกทรงพี่สาวจีน เสริมคาง ดูดไขมัน หรือทำตาสองชั้น โรงพยาบาลศัลยกรรมจีนแห่งนี้มีความเชี่ยวชาญและมีรีวิวดีๆ มากมาย ยืนยันความปลอดภัยและคุณภาพการรักษา ในบทความนี้ เราจะสรุปทุกขั้นตอน เตรียมเอกสารศัลยกรรมจีน การขอวีซ่า (รวมถึงข้อมูล ฟรีวีซ่าจีน ล่าสุดปี 2025) การเตรียมของใช้ที่จำเป็นก่อนเดินทาง วิธีติดต่อกับโรงพยาบาล Shanghai Qimei รวมถึง ขั้นตอนเดินทางไปศัลยกรรมที่จีน ตั้งแต่ก่อน-หลังผ่าตัด นอกจากนี้ยังแนะนำตัวเลือกที่พักใกล้โรงพยาบาลพร้อมราคาโดยประมาณ และวิธีเดินทางจากสนามบินไปยังโรงพยาบาลอย่างสะดวกสบาย
เอกสารที่ต้องใช้ในการเดินทางและศัลยกรรมที่โรงพยาบาล Shanghai Qimei
ก่อนออกเดินทาง เตรียมตัวไปทำศัลยกรรมที่จีน สิ่งแรกที่ต้องจัดเตรียมคือเอกสารต่างๆ ให้ครบถ้วน เพื่อให้การเดินทางและขั้นตอนที่โรงพยาบาลเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีสะดุด การเตรียมเอกสารศัลยกรรมจีน มีรายละเอียดดังนี้:
-
หนังสือเดินทาง (Passport): ตรวจสอบว่าพาสปอร์ตของคุณมีอายุเหลืออย่างน้อย 6 เดือนนับจากวันเดินทาง และมีหน้าว่างเหลือเพียงพอสำหรับตราประทับขาเข้า-ออกประเทศจีน
-
วีซ่าจีน: หากคุณต้องขอวีซ่า ให้เตรียมเอกสารวีซ่าศัลยกรรมจีน (จริงๆ แล้วคือวีซ่าท่องเที่ยวจีน) ได้แก่ แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าที่กรอกครบถ้วน รูปถ่ายสีขนาด 2 นิ้ว พื้นหลังขาว 2 ใบ (ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน) ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ และหลักฐานการจองที่พัก (หรือหนังสือเชิญจากโรงพยาบาลถ้ามี) ※หมายเหตุ: ในกรณีเดินทางช่วงปี 2024-2025 ผู้ถือพาสปอร์ตไทยได้รับสิทธิ ยกเว้นวีซ่า (ฟรีวีซ่า) ท่องเที่ยวจีน 30 วัน ซึ่งเราจะอธิบายในหัวข้อถัดไป
-
หลักฐานการนัดหมายโรงพยาบาล: เตรียมเอกสารยืนยันการจองคิวหรือใบนัดหมายกับโรงพยาบาล Shanghai Qimei (เช่น ใบยืนยันการผ่าตัดที่ทางโรงพยาบาลหรือเอเจนซี่ออกให้) เพื่อแสดงที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองหรือที่โรงพยาบาลในวันเข้ารับบริการ
-
ประกันการเดินทางหรือประกันสุขภาพ: สำเนากรมธรรม์ประกันเดินทางที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายสุขภาพในต่างประเทศ (หากมี) เพื่อความอุ่นใจระหว่างทริป ควรตรวจสอบว่าประกันครอบคลุมเหตุไม่คาดฝัน เช่น อุบัติเหตุหรือภาวะแทรกซ้อนหลังศัลยกรรม (แม้ประกันทั่วไปอาจไม่ครอบคลุมการผ่าตัดเสริมความงาม แต่ควรมีไว้รองรับเหตุฉุกเฉินอื่นๆ)
-
ผลตรวจสุขภาพล่าสุด: บางกรณีแพทย์ที่จีนอาจขอดูผลตรวจเลือดหรือผลตรวจร่างกายล่าสุดของคุณ (เช่น ผลตรวจเลือด, เอกซเรย์ ฯลฯ) เพื่อประเมินความพร้อมก่อนผ่าตัด หากโรงพยาบาล Shanghai Qimei แจ้งรายการตรวจมาก่อน ให้ดำเนินการตรวจในไทยและนำผลติดตัวไปด้วย
-
สำเนาเอกสารสำคัญ: ถ่ายสำเนาหนังสือเดินทาง วีซ่า บัตรประชาชน ตลอดจนสำเนาประกันและเอกสารโรงพยาบาล เผื่อกรณีเอกสารตัวจริงสูญหาย คุณจะยังมีสำเนาใช้อ้างอิงได้
-
ใบกรอก ตม. จีน: เมื่อใกล้ถึงจีน บนเครื่องบินหรือที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง คุณต้องกรอกใบ Arrival Card โดยระบุ ชื่อ-นามสกุล, หมายเลขพาสปอร์ต, ที่อยู่ที่พักในจีน, ระยะเวลาพำนัก และเหตุผลในการเดินทาง (แนะนำให้ระบุว่า “ท่องเที่ยวและศัลยกรรมความงาม”)
เมื่อจัดเตรียม เอกสารที่จำเป็นก่อนเดินทาง ครบถ้วนแล้ว คุณก็จะมั่นใจยิ่งขึ้นว่าไม่มีปัญหาติดขัดด้านเอกสารทั้งตอนเดินทางเข้าประเทศจีนและในขั้นตอนรับบริการที่โรงพยาบาล
การขอวีซ่าจีนล่าสุด (อัปเดตปี 2025)
การเดินทางไปศัลยกรรมที่จีนในปี 2025 มีข่าวดีสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางไทย เพราะตั้งแต่มีนาคม 2024 รัฐบาลจีนได้เริ่มนโยบาย ยกเว้นวีซ่า ให้คนไทยที่เดินทางเพื่อการท่องเที่ยวหรือเยี่ยมเยียนระยะสั้น อยู่ในจีนได้นานสูงสุด 30 วันโดยไม่ต้องยื่นวีซ่า แต่จะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วน ได้แก่ พาสปอร์ตไทยที่ยังไม่หมดอายุ (เหลือมากกว่า 6 เดือน), ตั๋วเครื่องบินหรือหลักฐานการเดินทางออกจากจีนภายใน 30 วัน, ใบจองที่พักในจีน, และหลักฐานด้านการเงินเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายระหว่างทริป
สำหรับคนไทยส่วนใหญ่ที่ไปทำศัลยกรรมที่เซี่ยงไฮ้ ซึ่งใช้เวลาอยู่ที่จีนไม่เกิน 1-2 สัปดาห์ การใช้สิทธิ ฟรีวีซ่าจีน ถือว่าสะดวกมาก ช่วยลดขั้นตอนการเตรียมเอกสารและค่าธรรมเนียมไปได้ไม่น้อย อย่างไรก็ตาม หากคุณวางแผนจะพำนักที่จีนเกิน 30 วัน หรือต้องการความชัวร์ในการเข้าเมือง การขอวีซ่าจีนล่วงหน้า ก็ยังคงเป็นทางเลือกที่ควรพิจารณา โดยประเภทวีซ่าที่เหมาะสมคือ วีซ่าท่องเที่ยว (ประเภท L) ซึ่งครอบคลุมการเดินทางเพื่อพักผ่อนและทำธุรกิจส่วนตัว (รวมถึงการมาทำศัลยกรรมภายในระยะเวลาสั้นๆ)
ขั้นตอน การขอวีซ่าจีน (กรณีเลือกยื่นวีซ่าแทนการใช้ฟรีวีซ่า):
-
เตรียมเอกสารยื่นวีซ่าให้ครบถ้วน: เอกสารหลักๆ ได้แก่ หนังสือเดินทางตัวจริง, รูปถ่าย 2 นิ้ว พื้นหลังขาว 2 รูป, แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าจีน (กรอกออนไลน์แล้วปริ้นออกมา), ใบจองตั๋วเครื่องบินและที่พัก, และรายการเดินบัญชีย้อนหลัง 3 เดือน (Statement) ยอดเงินคงเหลือเพียงพอ (โดยทั่วไปอย่างน้อยประมาณ 5 หมื่นบาทขึ้นไป) ซึ่งเอกสารเหล่านี้คือ เอกสารวีซ่าศัลยกรรมจีน ที่ต้องเตรียมเพราะวัตถุประสงค์การเดินทางคือมาศัลยกรรม
-
ยื่นคำร้องที่ศูนย์วีซ่าจีน: ปัจจุบันการยื่นวีซ่าจีนต้องทำผ่านศูนย์บริการยื่นวีซ่า (Chinese Visa Application Service Center – CVASC) ที่กรุงเทพฯ หรือเชียงใหม่ โดยทำการนัดหมายล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ จากนั้นนำเอกสารไปยื่นตามวันเวลาที่นัด ควรเผื่อเวลาไปถึงแต่เช้าเพื่อลดเวลารอคิว
-
ชำระค่าธรรมเนียมและรอรับวีซ่า: ค่าวีซ่าท่องเที่ยวจีนอยู่ที่ประมาณ 1,500-2,000 บาท ขึ้นอยู่กับประเภทการเข้า-ออก (single entry หรือ double entry) และความเร่งด่วน (มีบริการแบบด่วนพิเศษแต่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม) ระยะเวลาพิจารณาประมาณ 3-4 วันทำการ เมื่อได้รับพาสปอร์ตคืนพร้อมวีซ่าแล้ว ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลวีซ่าวันที่ออกและวันหมดอายุให้เรียบร้อย
คำแนะนำ: หากคุณใช้สิทธิยกเว้นวีซ่า อย่าลืมเตรียมเอกสารตามที่กล่าวข้างต้น (ตั๋วขากลับ, การจองที่พัก, ฯลฯ) ติดตัวไว้เผื่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสอบถามเพิ่มเติม และไม่ควรอยู่เกินกำหนด 30 วันเด็ดขาด ส่วนใครที่ต้องยื่นวีซ่าเอง แนะนำให้ดำเนินการล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือนก่อนเดินทางเพื่อความมั่นใจ
การเตรียมตัวก่อนเดินทาง: ประกันสุขภาพ, ยา และของจำเป็น
เมื่อเอกสารพร้อมแล้ว ต่อไปคือ การเตรียมตัวก่อนเดินทาง ด้านอื่นๆ เพื่อให้ทริปศัลยกรรมครั้งนี้ราบรื่นและปลอดภัยที่สุด การเตรียมสิ่งจำเป็นเหล่านี้จะช่วยลดความกังวลระหว่างการเดินทาง:
-
ประกันสุขภาพและประกันเดินทาง: แม้การทำศัลยกรรมความงามอาจไม่ครอบคลุมในประกันเดินทางทั่วไป แต่ควรมีประกันเดินทางที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉินและอุบัติเหตุระหว่างอยู่จีน ตลอดจนประกันเที่ยวบินล่าช้าหรือยกเลิก เผื่อกรณีต้องเลื่อนตั๋วกลับบ้านเพราะอาการหลังผ่าตัด การมีประกันจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน
-
ยาประจำตัวและยาที่จำเป็น: จัดเตรียมยาที่คุณต้องกินเป็นประจำ (เช่น ยาโรคประจำตัว) ใส่กระเป๋าถือติดตัวขึ้นเครื่อง พร้อมทั้งยาสามัญที่อาจจำเป็นระหว่างเดินทาง เช่น ยาแก้ปวด, ยาแก้แพ้, ยาลดไข้ รวมถึงยาทางการแพทย์ที่แพทย์จีนอาจให้คุณเตรียมมาก่อน (เช่น ยาปฏิชีวนะ หรือยาละลายลิ่มเลือดในบางเคสศัลยกรรม) หมายเหตุ: ควรพกฉลากยาหรือใบสั่งยาภาษาอังกฤษติดมาด้วย เพื่อความสะดวกในการผ่านด่านศุลกากร
-
ของใช้จำเป็นอื่นๆ:
-
เครื่องแต่งกาย: เตรียมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย หลวมๆ เช่น เสื้อเชิ้ตติดกระดุมหรือซิปด้านหน้า เพื่อสะดวกต่อการสวมใส่หลังผ่าตัด (ไม่ต้องยกแขนสูงหรือรัดรูปเกินไป) และรองเท้าสวมง่าย
-
อุปกรณ์อำนวยความสะดวก: หมวกและแว่นกันแดดสำหรับใส่อำพรางใบหน้าหลังทำศัลยกรรม (หากมีรอยฟกช้ำหรือผ้าพันแผล) ผ้าปิดตาและที่อุดหูสำหรับช่วยพักผ่อนบนเครื่องบิน Powerbank สำหรับชาร์จมือถือขณะเดินทาง, หัวปลั๊กไฟแบบ Universal (เพราะปลั๊กไฟจีนอาจต่างจากไทย), ซองซิปล็อกกันน้ำสำหรับใส่เอกสารสำคัญ, ทิชชู่เปียกและแอลกอฮอล์เจลสำหรับรักษาความสะอาด
-
โทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต: เตรียมซิมโรมมิ่งหรือ eSIM จีน สำหรับใช้งานอินเทอร์เน็ตระหว่างอยู่ที่จีน เนื่องจากคุณอาจต้องใช้ติดต่อแอปแปลภาษา, ติดต่อโรงพยาบาล หรือวีดีโอคอลกลับไทย นอกจากนี้ โหลดแอป WeChat ติดมือถือไว้ เพราะที่จีนแอปนี้ใช้สื่อสารได้สะดวกกับทั้งโรงพยาบาลและคนขับแท็กซี่ (และสามารถใช้ชำระเงินได้ในบางร้าน หากผูกกับบัตรเครดิตต่างประเทศ)
-
เงินสดและบัตรเครดิต: แลกเงินสด สกุลหยวน (CNY) ติดตัวไปให้พอประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายจิปาถะ เช่น ค่าเดินทางในเมือง ค่าอาหาร เป็นต้น (แนะนำประมาณ 2,000-3,000 หยวน หรือราว 10,000-15,000 บาท) เนื่องจากร้านเล็กๆ บางแห่งรับเฉพาะเงินสด ส่วนค่าใช้จ่ายใหญ่ๆ เช่น ค่าผ่าตัด โรงพยาบาลมักรับบัตรเครดิตต่างประเทศหรือการโอนผ่านบริการระหว่างประเทศได้ แต่สอบถามล่วงหน้าให้แน่ใจ
-
เมื่อตรวจสอบรายการทั้งหมดแล้ว จัดของลงกระเป๋าให้เรียบร้อย อย่าลืมเหลือพื้นที่สำหรับนำของฝากหรือผลิตภัณฑ์ดูแลตัวเองหลังศัลยกรรมกลับมาด้วยนะคะ การเตรียมพร้อมรอบด้านเช่นนี้จะทำให้คุณเดินทางได้อย่างสบายใจ พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงความสวยในครั้งนี้
รูปแบบการติดต่อกับโรงพยาบาล Shanghai Qimei และขั้นตอนก่อน-หลังศัลยกรรม
โรงพยาบาล Shanghai Qimei เป็น โรงพยาบาลศัลยกรรมจีน ที่มีมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยต่างชาติอย่างดีเยี่ยม การติดต่อสื่อสารและเตรียมขั้นตอนกับทางโรงพยาบาลล่วงหน้าจะช่วยให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น เราสามารถแบ่งเรื่องนี้ออกเป็นสองส่วนคือ วิธีการติดต่อโรงพยาบาล และ ขั้นตอนก่อน-หลังการผ่าตัดศัลยกรรม ดังนี้
การติดต่อและประสานงานกับโรงพยาบาล
-
ติดต่อผ่านเอเจนซี่ศัลยกรรม: วิธีที่สะดวกที่สุดสำหรับคนไทยคือการใช้บริการเอเจนซี่ศัลยกรรมจีน เช่น 412Glow ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการประสานงานกับโรงพยาบาลในจีนหลายแห่งรวมถึง Shanghai Qimei ด้วย เอเจนซี่จะช่วยตั้งแต่ขั้นตอนประเมินเคสทางออนไลน์ (ส่งรูปให้แพทย์ประเมินก่อนเดินทาง) จองคิวผ่าตัด ล่ามแปลภาษา นัดหมายวันเวลา และเตรียมเอกสารที่โรงพยาบาลต้องการ การใช้เอเจนซี่มีข้อดีคือคุณไม่ต้องกังวลเรื่องอุปสรรคภาษา จีน เพราะจะมีผู้ประสานงานที่พูดไทย-จีนได้คล่องคอยดูแล รวมถึงมีสิทธิพิเศษเพิ่มเติม เช่น ที่พักฟรี 1-2 คืนใกล้โรงพยาบาล, บริการรถรับส่งสนามบิน, ตั๋วเครื่องบินในราคาพิเศษ และของแถมอื่นๆ ตามโปรโมชั่นของเอเจนซี่
-
ติดต่อโรงพยาบาลโดยตรง: หากคุณเลือกติดต่อเอง โรงพยาบาล Shanghai Qimei มีช่องทางติดต่อหลายรูปแบบ เช่น ทางเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของโรงพยาบาล (หากมีภาษาอังกฤษ) หรืออีเมล นอกจากนี้ WeChat ก็เป็นช่องทางหลักที่หลายโรงพยาบาลจีนใช้สื่อสารกับคนไข้ต่างชาติ คุณอาจต้องสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ (หรือภาษาจีนถ้าสะดวก) โดยแจ้งความต้องการทำศัลยกรรมประเภทที่สนใจ และส่งรูปถ่ายให้แพทย์ประเมินเบื้องต้น เมื่อได้รับการตอบรับและเสนอแผนการรักษา คุณจะต้องนัดหมายวันผ่าตัดและอาจมีการมัดจำค่ารักษาล่วงหน้าบางส่วน (ขึ้นอยู่กับนโยบายของโรงพยาบาล)
-
ล่ามและการสื่อสาร: ภาษาเป็นอีกเรื่องที่ต้องคำนึง หากคุณไปโดยไม่มีเอเจนซี่ การจ้างล่ามส่วนตัว ที่ชำนาญด้านการแพทย์ก็เป็นสิ่งสำคัญ ล่ามจะช่วยแปลในวันที่ปรึกษากับศัลยแพทย์ ช่วยสื่อสารความต้องการของเรากับคุณหมอได้ตรงจุด และหลังผ่าตัดก็ช่วยในการสื่อสารกับพยาบาลเกี่ยวกับการดูแลตัวเอง ทั้งนี้ 412Glow หรือเอเจนซี่อื่นๆ มักมีบริการล่ามรวมอยู่ในแพ็คเกจอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณเดินทางไปเอง อาจติดต่อหาล่ามอิสระผ่านทางออนไลน์หรือกลุ่มผู้ใช้บริการศัลยกรรมจีน ซึ่งค่าใช้จ่ายจะคิดเป็นรายวัน
ขั้นตอนก่อนผ่าตัดศัลยกรรม (Pre-Operation)
เมื่อเดินทางถึงเซี่ยงไฮ้และไปถึงโรงพยาบาล Shanghai Qimei ในวันนัดหมาย ขั้นตอนก่อนเข้าห้องผ่าตัดมักประกอบด้วย:
-
ตรวจร่างกายและพบแพทย์: เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจะตรวจสอบเอกสารและพาไปตรวจร่างกายพื้นฐาน (เช่น ตรวจเลือด วัดความดัน ชั่งน้ำหนัก เอ็กซเรย์ตามความจำเป็น) เพื่อยืนยันว่าร่างกายพร้อมสำหรับการดมยาสลบหรือทำหัตถการ จากนั้นคุณจะได้พบศัลยแพทย์ที่จะทำการผ่าตัด พูดคุยรายละเอียดขั้นสุดท้ายอีกครั้ง ผ่านล่ามหรือผู้ประสานงาน แพทย์จะแจ้งขั้นตอนที่จะทำอย่างละเอียด และตอบคำถามหรือข้อกังวลของคุณ
-
เซ็นเอกสารยินยอมการรักษา: คุณจะต้องกรอกแบบฟอร์มและเซ็นเอกสารยินยอมต่างๆ (Consent Form) ซึ่งอาจมีทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน ใจความคือยินยอมเข้ารับการผ่าตัดและเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
-
ชำระค่าใช้จ่าย: โรงพยาบาลหลายแห่งในจีนรวมถึง Qimei มักให้ชำระค่าผ่าตัดหรือส่วนที่เหลือก่อนเข้ารับบริการ (หักลบกับมัดจำที่อาจจ่ายมาก่อนหน้า) สามารถชำระด้วยเงินหยวน, บัตรเครดิต หรือผ่านการโอนตามที่โรงพยาบาลแจ้ง
-
การเตรียมร่างกายก่อนผ่า: เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว แพทย์จะให้คำแนะนำสุดท้ายในการเตรียมร่างกาย เช่น งดน้ำและอาหาร อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงก่อนเวลาผ่าตัด (กรณีดมยาสลบ) งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ ในช่วง 24-48 ชั่วโมงก่อนผ่า งดยาและวิตามินบางชนิด ที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดอย่างน้อย 7 วัน (เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา แอสไพริน) หากมีโรคประจำตัว, การแพ้ยา, หรือมีประจำเดือนในช่วงนั้น ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบแต่เนิ่นๆ
-
เข้าห้องผ่าตัด: คุณจะถูกนำเข้าห้องผ่าตัดตามเวลานัดหมาย มีวิสัญญีแพทย์ดูแลการให้ยาสลบหรือยาชาอย่างมืออาชีพ (โรงพยาบาล Shanghai Qimei ขึ้นชื่อว่ามีแพทย์วิสัญญีประจำและอุปกรณ์ปลอดภัยมาตรฐานสูง) แล้วดำเนินการผ่าตัดตามแพลน ซึ่งระยะเวลานานเท่าใดขึ้นกับประเภทศัลยกรรม (เช่น เสริมจมูกประมาณ 2-3 ชั่วโมง, ดึงหน้าอาจใช้ 4-5 ชั่วโมง เป็นต้น)
ขั้นตอนหลังผ่าตัดศัลยกรรม (Post-Operation)
หลังการผ่าตัดเสร็จสิ้นและคุณถูกส่งมายังห้องพักฟื้นหรือห้องพักผู้ป่วย ขั้นตอนและการดูแลหลังศัลยกรรมที่ควรรู้ ได้แก่:
-
การพักฟื้นในโรงพยาบาล: เคสผ่าตัดใหญ่หรือใช้ยาสลบ คุณมักจะต้องพักที่โรงพยาบาลอย่างน้อย 1 คืน เพื่อให้พยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิด แพทย์จะมาตรวจอาการหลังผ่า ตรวจแผล และให้คำแนะนำก่อนอนุญาตให้กลับที่พัก หากเป็นหัตถการเล็ก (เช่น ทำตาสองชั้นอย่างเดียว) อาจพักดูอาการไม่กี่ชั่วโมงแล้วกลับได้เลย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์
-
รับยาและฟังคำแนะนำ: ก่อนออกจากโรงพยาบาล คุณจะได้รับยากลับมาทานที่ที่พัก เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาแก้อักเสบ ยาแก้ปวด รวมถึงอุปกรณ์ทำแผลที่จำเป็น พร้อมทั้งเอกสารคำแนะนำการดูแลตัวเอง เช่น วิธีทำความสะอาดแผล สิ่งที่ห้ามทำ และวันที่ต้องกลับมาพบแพทย์อีกครั้ง (follow-up) ซึ่งมักจะเป็นวันถัดไปหรือสองวันถัดมาเพื่อเช็คความเรียบร้อย
-
การดูแลตัวเองระหว่างพักฟื้น: ช่วงที่พักที่โรงแรมหลังออกจากโรงพยาบาล ถือเป็นเวลาพักฟื้นร่างกาย คุณควรปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัด เช่น นอนพักให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ หลีกเลี่ยงการออกแรงหนักหรือก้มศีรษะ (ในกรณีทำจมูกหรือใบหน้า) งดอาหารแสลงบางประเภท อาหารหลังศัลยกรรม ที่แนะนำมักเป็นอาหารย่อยง่ายและไม่เสี่ยงต่อการอักเสบ เช่น โจ๊ก, ซุปใส, เนื้อปลา/ไก่ต้ม นึ่ง ส่วนของที่ควรงดเช่น ของหมักดอง อาหารทะเล ของทอด และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 2 สัปดาห์แรก
-
การติดตามผลและตัดไหม: สำหรับศัลยกรรมส่วนใหญ่ คุณจะต้องกลับไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล Shanghai Qimei อีกครั้งก่อนเดินทางกลับไทย เช่น นัดตัดไหมหลังผ่าตัดประมาณ 5-7 วัน (ขึ้นกับชนิดของการผ่า) หรือตรวจเช็คอาการซ้ำ แพทย์จะประเมินผลลัพธ์และอาการบวมช้ำ หากทุกอย่างปกติดีก็จะอนุญาตให้เดินทางกลับประเทศได้
-
การดูแลหลังกลับไทย: ทางโรงพยาบาลหรือเอเจนซี่มักให้ช่องทางติดต่อหลังการผ่าตัด เช่น LINE หรือ WeChat เพื่อให้คุณส่งรูปติดตามผลกับแพทย์เป็นระยะเมื่อกลับถึงไทยแล้ว ดังนั้นควรรักษาการติดต่อไว้ เผื่อกรณีมีข้อสงสัยหรือภาวะแทรกซ้อนจะได้รับคำปรึกษาอย่างทันท่วงที
หมายเหตุ: หลายคนอาจสงสัยว่า “ศัลยกรรมจีนปลอดภัยไหม?” ในส่วนนี้ต้องบอกว่าหากคุณเลือกโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานสูงอย่าง Shanghai Qimei ซึ่งมีทีมศัลยแพทย์มากประสบการณ์และวิสัญญีแพทย์ประจำ ปฏิบัติตามขั้นตอนการเตรียมตัวและดูแลหลังผ่าตัดอย่างถูกต้อง ความปลอดภัยก็ไม่ต่างจากทำที่ประเทศอื่นๆ เลย ที่สำคัญอย่าลืมปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์และไม่หักโหมร่างกาย พักฟื้นให้เต็มที่ คุณก็จะได้ผลลัพธ์สวยงามกลับบ้านอย่างปลอดภัย
ตัวเลือกที่พักใกล้โรงพยาบาล Shanghai Qimei พร้อมราคาคร่าว ๆ และคำแนะนำในการเลือก
การเลือกที่พักใกล้โรงพยาบาลเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยให้การเดินทางไปทำศัลยกรรมสะดวกขึ้น เพราะคุณไม่อยากเดินทางไกลในสภาพหลังผ่าตัดที่ยังบอบช้ำอยู่ การพักโรงแรมที่อยู่ไม่ไกลจาก Shanghai Qimei จะช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มความสะดวกในการไปกลับโรงพยาบาลเพื่อติดตามอาการ เรามีคำแนะนำในการเลือกที่พักดังนี้:
-
เลือกโรงแรมระดับ 3-4 ดาวใกล้โรงพยาบาล: โรงแรมระดับกลางถึงค่อนข้างดีจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและบริการได้มาตรฐาน ราคาโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ ฿1,500-฿3,000 ต่อคืน สำหรับ 3 ดาว หรือ ฿3,000-฿5,000 ต่อคืน สำหรับโรงแรม 4 ดาวขึ้นไป (ราคาขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและโปรโมชั่น) ตัวอย่างโรงแรมใกล้ย่านโรงพยาบาลเช่น Shanghai Qimei อาจมี โรงแรมเชนในเครือ Jinjiang หรือ Vienna Hotel ที่ขึ้นชื่อด้านความสะอาดและบริการดี หรือโรงแรมสากลอย่าง Holiday Inn, Novotel ในโซนหงเฉียว (Hongqiao) ซึ่งไม่ไกลจากศูนย์การแพทย์ที่ตั้งโรงพยาบาล ราคาก็อาจจับต้องได้เมื่อจองล่วงหน้า
-
ห้องพักแบบส่วนตัวและมีลิฟต์: ควรเลือกโรงแรมที่มีลิฟต์โดยสาร เพราะหลังผ่าตัดคุณอาจขึ้นบันไดไม่สะดวก นอกจากนี้ห้องพักควรเป็นแบบห้องน้ำในตัว สะอาด มีระบบปรับอากาศที่คุณควบคุมเองได้ เพื่อความสบายระหว่างพักฟื้น
-
บริการพิเศษสำหรับผู้ป่วยศัลยกรรม: โรงแรมบางแห่งในย่านนี้ที่รองรับลูกค้าต่างชาติ อาจมีบริการพิเศษ เช่น เมนูอาหารอ่อนสำหรับผู้พักฟื้น, บริการพยาบาลหรือแพทย์เยี่ยมดูอาการ (ในกรณีฉุกเฉิน) หรือมีพนักงานสื่อสารภาษาอังกฤษได้ สิ่งเหล่านี้อาจไม่ได้จำเป็นทั้งหมดแต่เป็น โบนัส ที่ควรสอบถามไว้ล่วงหน้า หากเลือกได้ควรพักในที่ที่มีพนักงานเข้าใจภาษาอังกฤษหรือมีบริการแปลภาษาผ่านมือถือ จะช่วยให้การขอความช่วยเหลือต่างๆ ง่ายขึ้น
-
ความใกล้โรงพยาบาล: ตรวจสอบระยะทางจากโรงแรมไปยัง Shanghai Qimei (ดูจากแผนที่หรือ Google Maps) โดยควรอยู่ในระยะไม่เกิน 2-3 กิโลเมตร หรือใช้เวลาเดินทางรถยนต์ไม่เกิน 10-15 นาที เพื่อความสะดวก เผื่อกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินหลังผ่า เช่น เลือดออก หรือต้องไปพบแพทย์กะทันหัน จะได้ไปถึงรวดเร็ว
-
สิทธิพิเศษจากเอเจนซี่: หากคุณใช้บริการ 412Glow หรือเอเจนซี่อื่น บ่อยครั้งจะมี ดีลที่พักราคาพิเศษ หรือคูปองส่วนลดโรงแรมที่เป็นพาร์ทเนอร์กับเอเจนซี่ บางแพ็คเกจรวมค่าที่พัก 1-2 คืนแรกไว้แล้ว คุณสามารถใช้สิทธินั้นเพื่อลดค่าใช้จ่ายได้
คำแนะนำสุดท้ายในการเลือกที่พัก คือ จองล่วงหน้า ให้เรียบร้อยก่อนเดินทาง โดยเฉพาะช่วงที่มีนักท่องเที่ยวเยอะ (ฤดูใบไม้ผลิหรือช่วงวันหยุดยาวจีน) โรงแรมอาจเต็มเร็ว การจองแต่เนิ่นๆ ทำให้คุณมีตัวเลือกมากขึ้น และได้ราคาดีกว่าเดินหาเมื่อไปถึง นอกจากนี้อ่าน รีวิวที่พักใกล้โรงพยาบาล Shanghai Qimei จากผู้เข้าพักรายอื่นๆ ประกอบการตัดสินใจ เพื่อให้มั่นใจว่าที่พักนั้นเหมาะกับการพักฟื้นของเราจริงๆ
การเดินทางจากสนามบินไปยังโรงพยาบาล Shanghai Qimei
หลังจากเครื่องบินแตะพื้นสนามบินเซี่ยงไฮ้ ขั้นตอนต่อไปคือการเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองและไปยังโรงพยาบาล Shanghai Qimei อย่างปลอดภัยและสะดวกสบายที่สุด เซี่ยงไฮ้มีสนามบินหลัก 2 แห่งที่คุณอาจเดินทางมาถึง:
-
สนามบินนานาชาติผู่ตง (PVG): เป็นสนามบินหลักที่เที่ยวบินจากกรุงเทพฯ มักลงจอด ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเซี่ยงไฮ้ ห่างจากใจกลางเมืองประมาณ 30 กิโลเมตร
-
สนามบินนานาชาติหงเฉียว (SHA): อยู่ทางตะวันตกของเมือง ใกล้กับย่าน Hongqiao Medical Center ซึ่งโรงพยาบาล Qimei ตั้งอยู่ หากสามารถเลือกไฟล์ทที่ลงสนามบินหงเฉียวได้ จะเดินทางต่อสะดวกกว่า (สายการบินภายในเอเชียบางเจ้าและไฟล์ทเช่าเหมาลำอาจลงหงเฉียว)
วิธีการเดินทางจากสนามบินไปโรงพยาบาล:
-
รถรับส่งโดยเอเจนซี่หรือโรงพยาบาล: หากคุณใช้บริการเอเจนซี่ 412Glow มักจะมี บริการรถรับส่งสนามบิน ให้ลูกค้าที่เดินทางมาทำศัลยกรรม ซึ่งสะดวกมาก คนขับจะมารอรับถึงประตูขาเข้า ถือป้ายชื่อคุณ จากนั้นพาไปส่งที่โรงแรมหรือโรงพยาบาลทันที คุณไม่ต้องกังวลเรื่องเส้นทางเลย วิธีนี้เหมาะที่สุดสำหรับคนที่เพิ่งเดินทางไกลมาและอาจยังมึนยาจากการผ่าตัด (กรณีเดินทางขากลับก็มีรถไปส่งสนามบินเช่นกัน)
-
แท็กซี่หรือรถยนต์ส่วนตัว: ที่สนามบินทั้ง PVG และ SHA จะมีป้ายบอกทางไปจุดขึ้นแท็กซี่ (Metered Taxi) อย่างชัดเจน แนะนำให้ต่อคิวขึ้นแท็กซี่จากคิวทางการเพื่อความปลอดภัย ค่าโดยสารจากสนามบินผู่ตงไปย่านโรงพยาบาล Shanghai Qimei (โซนหงเฉียว) จะอยู่ราวๆ 200-250 หยวน (ประมาณ 1,000-1,300 บาท) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงขึ้นกับสภาพจราจร ส่วน จากสนามบินหงเฉียวไปโรงพยาบาล นั้นใกล้กว่ามาก อาจใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที ค่าแท็กซี่ราว 50-100 หยวน (250-500 บาท) เท่านั้น หากเดินทางดึกหรือมีสัมภาระมาก การนั่งแท็กซี่จะสะดวกและตรงถึงจุดหมายทันที แต่ควรเตรียมที่อยู่โรงพยาบาลเป็น ภาษาจีน หรือแผนที่ไว้ให้คนขับดู (ตัวอย่างที่อยู่: 上海奇美医院 + ชื่อถนน) เผื่อคนขับสื่อสารอังกฤษไม่ได้
-
รถไฟฟ้าและรถบัส: เซี่ยงไฮ้มีระบบขนส่งสาธารณะครอบคลุม สนามบินผู่ตงมี รถไฟฟ้า Maglev ความเร็วสูงเข้าสู่ตัวเมือง (สถานี Longyang Rd.) เชื่อมต่อรถไฟฟ้าใต้ดินสาย 2 ซึ่งสามารถนั่งต่อไปยังย่านหงเฉียวได้โดยตรง ส่วนสนามบินหงเฉียวมี รถไฟฟ้าใต้ดินสาย 2 และสาย 10 ผ่านตัวอาคาร สามารถนั่งเข้าเมืองได้สะดวก หากต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย วิธีนี้ถูกกว่า (ค่าโดยสารรวมไม่เกิน 50 หยวน หรือ 250 บาท) แต่ไม่แนะนำสำหรับผู้เพิ่งผ่านการผ่าตัดหรือมีสัมภาระใหญ่ เพราะจะเหนื่อยและพลุกพล่าน ควรมีผู้ช่วยเหลือเดินทางด้วยจึงจะเหมาะ
-
บริการรถเช่า/แอปพลิเคชันเรียกรถ: ในเซี่ยงไฮ้มีแอปฯ เรียกรถยอดนิยมอย่าง DiDi (滴滴) คล้าย Grab/Uber คุณสามารถเรียกรถผ่านแอป (มีเมนูภาษาอังกฤษ) จากสนามบินได้ แต่ต้องมีอินเทอร์เน็ตและวิธีชำระเงินผ่านบัตรเครดิตผูกกับแอป ตลอดจนสื่อสารกับคนขับเป็นภาษาจีนในแอปได้บ้าง วิธีนี้ราคาใกล้เคียงแท็กซี่ปกติแต่เพิ่มความสะดวกเรื่องการชำระเงิน (ไม่ต้องพกเงินสด)
เคล็ดลับ: หลังผ่าตัด ควรวางแผนเรื่องการเดินทางขากลับสนามบินไว้ล่วงหน้าเช่นกัน เผื่อเวลาให้มากกว่าปกติ เพราะร่างกายคุณอาจเคลื่อนไหวช้าลง อย่าลืมขอความช่วยเหลือพนักงานยกกระเป๋าของโรงแรม หรือใช้บริการรถเข็นที่สนามบินหากรู้สึกอ่อนเพลีย การเดินทางอย่างปลอดภัยคือหัวใจสำคัญในการปิดท้ายทริปศัลยกรรมที่จีนของคุณอย่างสมบูรณ์
เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อม ทั้งเอกสาร วีซ่า ที่พัก การเดินทาง และร่างกายของคุณเอง การไปทำสวยที่จีนก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป หวังว่าข้อมูล ขั้นตอนเดินทางไปศัลยกรรมที่จีน ที่เราได้รวบรวมมาจะช่วยให้คุณวางแผนทริปได้อย่างมั่นใจ โรงพยาบาล Shanghai Qimei นั้นมีชื่อเสียงและได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้บริการจำนวนมาก รีวิวต่างๆ ล้วนบอกต่อถึงผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจและการดูแลอย่างมืออาชีพ เพราะฉะนั้นหากคุณเตรียมตัวดีทั้งก่อนบินและหลังผ่า เชื่อว่าจะได้รับประสบการณ์ที่ดีและผลลัพธ์ความงามที่คุ้มค่ากับการเดินทางแน่นอน สุดท้ายนี้ อย่าลืมว่าความสวยต้องมาคู่กับความปลอดภัย วางแผนให้รอบด้านและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเมื่อไม่แน่ใจ แล้วการทำศัลยกรรมที่จีนของคุณจะเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยทุกขั้นตอนค่ะ
🩺 ปรึกษาศัลยกรรมจีนกับ 412GLOW วันนี้ ฟรี!
หากคุณกำลังมองหา เอเจนซี่ศัลยกรรมจีนที่เชื่อถือได้ พร้อมทีมแปลมืออาชีพ บริการดูแลแบบครบวงจร ตั้งแต่วางแผนการเดินทาง เตรียมเอกสาร ไปจนถึงติดตามผลหลังผ่าตัด — 412GLOW คือคำตอบของคุณ
✨ เราเชี่ยวชาญด้านการประสานงานกับโรงพยาบาลชั้นนำในจีน เช่น Shanghai Qimei, Namei, และอีกกว่า 20 แห่งทั่วประเทศจีน
📩 แอดไลน์เพื่อปรึกษาฟรี LINE : @412GLOW หรือ จองคิวทำศัลยกรรม ผ่านทีมผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่
👉 https://412glow.com/contact/
📌 เปลี่ยนตัวคุณในเวอร์ชันที่มั่นใจยิ่งขึ้น — เริ่มต้นวันนี้กับ 412GLOW